วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2557

ความรู้การใช้งานของ Facebook, Twitter, Google+, Youtube, Line

Facebook 

         Facebook เป็น Social Network อีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก ทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทยเราเอง โดยเฉพาะในประเทสไทยเรา ผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะเป็นเยาวชน ซึ่งการใช้งานก้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานธุรกิจหรือการเรียนการสอน การแสวงหาความรู้สักเท่าไรนัก ส่วนใหญ่จะเน้นไปในทางไม่ค่อยจะมีสาระเท่าไรนัก ทำให้ผุ้ใหญ่โดยเฉพาะครูอาจารย์และผู้ปกครองจำเป็นต้องเรียนรู้ว่ามันคืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง และที่สำคัญ Facebook จะก่อให้เกิดอันตรายต่อเรา ต่อเยาวชนไทยอย่างไรบ้าง
         Social Network Social Network หมายถึงเครือข่ายสังคม ในที่นี้หมายถึงเครือข่ายสังคมในโลกออนไลน์อย่างอินเตอร์เน็ต ที่สามารถเชื่อมโยงคนต่างๆ จากทุกมุมโลกเข้าด้วยกัน ทำให้เราสามารถแบ่งปันข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ และโดยเฉพาะความรู้สึกให้แก่กันได้ง่ายๆ ปัจจุบันเว็บที่ให้บริการลักษณะนี้มีมากมายหลายเว็บ แต่ที่ดังมากที่สุดมีหลายแห่ง ได้แก่ www.Twitter.com , www.multiply.com , www.hi5.com , www.friendster.com และ www.facebook.com
          Facebook ก็คือ Soical Networking เว็บไซต์หนึ่งที่มีผู้นิยมใช้งานกันมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพียงแค่เราสมัครเป็นสมาชิกกับ Facebook เราก็จะสามารถแบ่งปันข้อมูล รูปภาพ ความรู้สึกผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของ Facebook ได้ และที่สำคัญมากที่เป็นจุดประสงค์หลักของ Facebook ก็คือ การหาเพื่อนเก่าผ่านทาง Facebook และสามารถหาเพื่อนใหม่ๆ ได้จากทุกมุมโลกเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่า Facebook จะมีหลักการเช่นเดียวกันการบันทึกลง "หนังสือรุ่น" นั่นเอง แต่แน่นอน เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ Facebook จึงทำอะไรๆ ได้มากมายก็ หนังสือรุ่นธรรมดา..

Twitter 

          ทวิตเตอร์ (Twitter) เป็นเครือข่าสังคมออนไลน์จำพวกบล็อกขนาดเล็ก หรือที่เรียกว่า Micro Blog โดยความสามารถของเค้าคือส่งข้อความได้ไม่เกิน 140 ตัวอักษร โดยวัตถุประสงค์คือให้เรารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่นั่นเอง ไม่ว่าเรากำลังนั่งดื่มกาแฟ กินข้าว และจะเข้านอนก็สามารถที่จะเผยแพร่เหล่านี้ได้ครับ ฆรือจะใชประโยชน์ในหลายๆด้าน เช่นพูดคุยสื่อสารคนในกลุ่ม หรือมีการสั่งงาน การเรียกประชุมอะไรต่างๆ ได้ครับ และการรายงานข่าวสารต่างๆ ได้รวดเร็วทันใจถึงจะแค่ 140 ตัวอักษรก็ตาม บางทีผมจะเข้าห้องน้ำก็ยะงจะบอกผ่าน ทวิตเตอร์
          คำว่า Twitter อ่านว่า ทวิตเตอร์ แปลว่าเสียงแหลมของนก ที่เป็นเสียงจอแจอะไรทำนองนั้นละครับ เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะอ่านให้ถูกกันนะครับเพื่อความถูกต้อง บ้างคนจะกล่าวเป็นว่า Twister ซึ่งไม่ไช่ความหมายพายุ
          ทวิตเตอร์ ได้ถือกำเนิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา โดยบริษัท Obvious Corp เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ.2006 โดยคนที่สร้างขึ้นมาคือ Jack Dorey,Biz Stone และ Evan Willians อตีตเข้าเคยสร้าง Blogger เว็บ Blog แห่งแรกของโลก แต่ว่าตอนนี้ได้ถูก Google ซื้อไปเรียบร้อยแล้วครับ ถือได้ว่าพวกเข้านั้นมีความสามารถที่สร้างแหล่งสื่อสารออนไลน์ได้ทั้งสองอย่างแล้วมาโด่งดังด้วย เครื่องมือที่เราสามารถบอกสถาณะของเราให้เพื่อนทราบ 1.ส่งข้อความเป็น SMS คือเราสามารถ โพสต์ข้อความเราได้ผ่าน SMS 2.ส่งข้อความด้วยโปรแกรมแซต (IM: Instant Messeage) ปัจจุบันสามารถให้โปรแกรม Google Talk ได้ครับ 3.ส่งข้อความผ่านอินเตอร์เน็ตด้วยโทรศัพท์มือถือ 4.ด้วยการเข้าไปเขียน-ข้อความใน Twitter ของเราเองในเว็บไซต์ 

ความรู้เกี่ยวกับ Web Application, Search Engine

1.Web Application

        Web Application คือการจัดสร้างโปรแกรมให้ทำงานอัตโนมัติอยู่บนเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็น การนำเสนอข้อมูลแบบอัตโนมัติตามความต้องการของเจ้าของเว็บ การรับบันทึกข้อมูล ประวัติ รายละเอียดต่าง ๆ ฯลฯ จากเว็บลงสู่ฐานข้อมูล เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์ทางการตลาด หรือ การติดต่อสื่อสารกับผู้เข้าชมเว็บแบบออนไลน์ กระทั่งการทำ Web Content Editor เพื่อทำการแก้ไขข้อมูล ปรับแต่งหน้าตาเว็บไซต์ได้แบบออนไลน์ โดยไม่ต้องมีความรู้และทักษะทางด้านการเขียนเว็บ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วและตรงตามความต้องการในการเช้าชมเว็บไซต์นั้น ๆ

 2.Search Engine

        เสิร์ชเอนจิน (search engine) คือ โปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต โดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมหรือผู้ให้บริการแต่ละราย. เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญ (คีย์เวิร์ด) ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป จากนั้นก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่มันคิดว่าผู้ใช้น่าจะต้องการขึ้นมา ในปัจจุบัน เสิร์ชเอนจินบางตัว เช่น กูเกิล จะบันทึกประวัติการค้นหาและการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ไว้ด้วย และจะนำประวัติที่บันทึกไว้นั้น มาช่วยกรองผลลัพธ์ในการค้นหาครั้งต่อ ๆ ไป สัดส่วนของผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา (ข้อมูลจาก นิตยสารฟอรบส์ ฉบับวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2548)
1. กูเกิล (Google) 36.9%
2. ยาฮูเสิร์ช (Yahoo! Search) 30.4%
3. เอ็มเอสเอ็นเสิร์ช (MSN Search) 15.7%

 ที่มา http://noowoon-kannikar.blogspot.com/ http://www.clickmedesign.com/article/search-engine.html

ความหมายคำศัพท์ WAP, WIFI, ISP, HTML, GPRS, CDMA, Bluetooth

1. WAP หรือ Wireless Application Protocol 
         คือมาตราฐานกำหนดวิธีในการเข้าถึงข้อมูล และบริการ อินเตอร์เน็ตของอุปกรณ์ไร้สาย 2.

2.Wi-Fi หรือ Wireless
         หมายถึง เครือข่ายไร้สาย มักใช้กับระบบเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นในองค์กรหรือในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

3.ISP
          หรือ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต คืออะไร ISP คือ บริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตISPเป็นหน่วยงานที่บริการให้เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัท เข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลก 4.4.

4.HTML 
          คือ ภาษาที่ใช้ในการเขียนเว็บเพจ ย่อมาจากคำว่า Hypertext Markup Language โดย Hypertext หมายถึง ข้อความที่เชื่อมต่อกันผ่านลิ้ง (Hyperlink) Markup หมายถึง วิธีในการเขียนข้อความ language หมายถึงภาษา ดังนั้น HTML จึงหมายถึง ภาษาที่ใช้ในการเขียนข้อความ ลงบนเอกสารที่ต่างก็เชื่อมถึงกันใน cyberspace ผ่าน Hyperlink 

5.GPRS คือ
          เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นบนเครือข่ายเดิม เพื่อให้การส่งข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีการส่งข้อมูลแบบรวดเร็ว ซึ่งใช้ได้กับเครือข่ายระบบ GSM ช่วยเพิ่มความรวดเร็วให้กับการติดตั้ง และทำให้ระยะเวลาในการส่งข้อมูลรวดเร็วยิ่งขึ้น - เทคโนโลยีที่สร้างขึ้นมาเพื่อการใช้ Mobile Internet ด้วยความสะดวกยิ่งขึ้น ทำให้ท่านสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้อย่างสะดวก และง่ายดายผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ - นวัตกรรมใหม่ที่ทำให้การส่งข้อมูลมีประสิทธิภาพ  อินเตอร์เน็ต การส่งข้อมูลแบบใหม่ในรูปแบบของมัลติมีเดีย ซึ่งจะประกอบไปด้วยรูปภาพที่เป็นกราฟฟิก เสียงและวิดีโอ

 6.CDMA 
           CDMA ย่อมาจาก Code Division Multiple Access คือเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายด้วยระบบดิจิตอล เป็นการสื่อสารกันด้วยสัญญาณที่เข้ารหัสไว้แล้ว ซึ่งจะมีเพียงเครื่องส่งและเครื่องรับเท่านั้นที่จะสามารถถอดรหัสสัญญาณดังกล่าวได้ หรือเปรียบเสมือนการพูดภาษาที่จะเข้าใจเฉพาะผู้ส่งและผู้รับเท่านั่น โดยจะทำหน้าที่แปลงคำพูดเป็นข้อมูลแบบดิจิตอล และส่งผ่านข้อมูลในรูปของสัญญาณวิทยุไปบนเครือข่ายไร้สาย

7. BLUETOOTH 
           คือ ระบบสื่อสารของอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคแบบสองทาง ด้วยคลื่นวิทยุระยะสั้น (Short-Range Radio Links) โดยปราศจากการใช้สายเคเบิ้ล หรือ สายสัญญาณเชื่อมต่อ และไม่จำเป็นจะต้องใช้การเดินทางแบบเส้นตรงเหมือนกับอินฟราเรด ซึ่งถือว่าเพิ่มความสะดวกมากกว่าการเชื่อมต่อแบบอินฟราเรด ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์มือถือ กับอุปกรณ์ ในโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นก่อนๆ และในการวิจัย ไม่ได้มุ่งเฉพาะการส่งข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่ยังศึกษาถึงการส่งข้อมูลที่เป็นเสียง เพื่อใช้สำหรับ Headset บนโทรศัพท์มือถือด้วย

 ที่มา:http://yuttana230.blogspot.com/2014/01/wap-wifi-isp-html-gprs-cdma-bluetooth.html
        http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=18301334f0ff0139

ความหมายคำศัพท์ Web Site, Web page, Homepage, Webmaster, WWW และ TCP/IP

1.Web site (เว็บไซต์) เป็นที่เก็บเว็บเพ็จ เมื่อเราต้องการเปิดดูเว็บเพ็จ เราต้องให้บราวเซอร์ดึงข้อมูล โดยบราวเซอร์ จะทำการติดต่อกับเว็บไซต์นั้นเพื่อให้มีการโอนย้ายข้อมูลมาแสดงที่เครื่องของเรา

2.Webpage (เว็บเพ็จ) เอกสารที่เราเปิดดูใน WWW มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า เว็บเพ็จะถูกสร้างขึ้นจากภาษาคอมพิวเตอร์ ที่เรียกว่าHTML ภาษา HTML จะกำหนดรูปแบบและหน้าตาของเว็บเพ็จที่ปรากฎบนหน้าจอและส่วนที่เชื่อมต่อกับเว็บเพ็จอื่น

3.Home Page คือ หน้าแรกที่แสดงข้อมูลของเว็บไซต์ หรือ WWW (World Wide Web) เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ หรือ เป็นการดึงดูด ให้เข้าไปชมข้อมูลภายใน ซึ่งภายในโฮมเพจอาจมีเอกสารข้อความอื่นๆที่เรียกว่า เว็บเพจ (web page) เชื่อมโยงต่อจากโฮมเพจนั้นได้อีกเป็นจำนวน

4. เว็บมาสเตอร์ (webmaster) คือบุคคลผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบการออกแบบ การพัฒนา การดูแลการตลาด และการบำรุงรักษาเว็บไซต์ โดยเฉพาะบนเว็บไซต์ชุมชนออนไลน์ เว็บมาสเตอร์สามารถปรับเปลี่ยนหรือจัดการความคิดเห็นของผู้ใช้คนอื่นๆ ได้ เว็บมาสเตอร์อาจเรียกเป็นอย่างอื่นได้เช่น ผู้ดูแลเว็บไซต์ (website administrator) ผู้สร้างเว็บ ผู้พัฒนาเว็บ หรือผู้ออกแบบเว็บ เป็นต้น

5. WWW คือ คอมพิวเตอร์ส่วนหนึ่งบนอินเตอร์เน็ต ที่ถูกเชื่อมต่อกันในแบบพิเศษ ที่ทำให้คอมพิวเตอร์เหล่านั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลเนื้อหาที่เก็บไว้ภายในของแต่ละเครื่องได้ โดยผ่านทาง บราวเซอร์ (Browser) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้อ่านและตอบโต้ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ใน World Wide Web โดยเฉพาะ บราวเซอร์ที่พบเห็นได้มากที่สุดในปัจจุบัน ได้แก่ Internet Explorer และ Netscape

6. TCP/IP คือ การที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกเชื่อมโยงกันไว้ในระบบจะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้นั้น จำเป็นจะต้องมีภาษาสื่อสารที่เรียกว่า โปรโตคอล (Protocol)  ในระบบอินเทอร์เน็ต จะใช้ภาษาสื่อสารมาตรฐานที่ชื่อว่า TCP/IP

 ทีี่มา : http://tnt.co.th/thai/contact_us/faqs/detail.php?ID=233

ความหมายคำศัพท์ Internet, Intranet, Domain Name, Host

1.อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ กลุ่มเครือข่ายย่อย ๆ ของคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันภายใต้มาตรฐานการสื่อสาร (Protocol) เดียวกัน จนเป็นสังคมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเครือข่ายแต่ละเครื่อง สามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ กัน เช่น ตัวอักษร ภาพ เสียง รวมทั้งสามารถสืบค้นข้อมูลข่ายสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว

2.อินทราเน็ต คือ ระบบเครือข่ายซึ่งใช้กันเฉพาะภายใน โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับอินเทอร์เน็ตและใช้โปรโตคอลเดียวกัน ด้วยลักษณะการใช้งานที่เฉพาะภายในกลุ่มจึงทำให้อินทราเน็ตมีความปลอดภัยสูง มักถูกนำเอาไปใช้งานกับองค์กร บริษัท หรือหน่วยงานต่างๆในการจัดการภายใน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บเอกสาร การเผยแพร่ข่าวสาร ระบบเงินเดือน ห้องสนทนา และอื่นๆอีกมากมาย

3.Domain Name (โดเมน) คือ ชื่อเว็บไซต์  ที่ท่านสามารถเป็นเจ้าของ ซึ่งจะต้องไม่ซ้ำกับคนอื่น เพื่อการเรียกหาเว็บไซต์ที่ต้องการ "ชื่อเว็บไซต์" คือ สิ่งแรกที่แสดง หรือ ประกาศความมีตัวตนบนอินเตอร์เน็ตให้คนทั่วไปได้รู้จัก สามารถมีได้ชื่อเดียวในโลกเท่านั้น เมื่อผู้ใช้กรอกชื่อลงไปในช่อง Address ของ Internet Explorer ก็จะส่งชื่อไปร้องถามจากเครื่องแปลชื่อ โดเมน (Domain Name Server) และได้รับกลับมาเป็นไอพีแอดเดรส (Internet Protocol) แล้วส่งคำร้องไปให้กับเครื่องปลายทางตามไอพีแอดเดรส และได้ข้อมูลกลับมาตามรูปแบบที่ร้องขอไป


4.Host ( Hosting, Web Hosting) คือ การเช่าพื้นที่เว็บไซต์ หากคุณต้องการมีเว็บไซต์ ก่อนอื่นต้องจดโดเมนเนมก่อน จากนั้นต้องจ้างให้คนทำเว็บให้ แล้วจึงเช่า Host เพื่อเก็บเว็บไซต์ สามารถเช่า Host พร้อมจดโดเมนเนมได้ (โดเมนเนมคือชื่อเว็บไซต์เช่น www.jaideehosting.com เว็บไซต์ของ jaideehosting ) หากเช่า Host และ จดโดเมนเนมที่เดียวกัน ก็สามารถใช้เว็บไซต์ได้ทันที